ปัญหาสายตา เป็นปัญหาใกล้ตัวของทุกๆคนในปัจจุบันแนวโน้มของคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับสายตามีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากการเข้ามาของเทคโนโลยี ทำให้ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงาน หรือการพักผ่อน ทุกอย่างล้วนเกี่ยวข้องกับการใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ทั้งสิ้น วันนี้เราจะมาพูดถึงอันตรายจากการนั่งจ้องหน้าจอนานๆไม่ว่าจะเป็น การนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ นั่งดูโทรทัศน์ หรือการนั่งเล่นโทรศัพท์ รวมไปถึงวิธีการป้องกันไม่ให้จอประสาทตาเสื่อม พร้อมแล้วไปดูกันเลย!!!
จอประสาทตาเสื่อมคืออะไร?
จอประสาทตาเสื่อม เป็นโรคที่มาจากการเกิดความผิดปกติบริเวณส่วนกลางของจอประสาทตา มักจะพบมากในผู้ป่วยสูงอายุ แต่ปัจจุบันโรคจอประสาทตาเสื่อมเริ่มพบในกลุ่มคนที่มีอายุน้อยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากการเข้ามาของเทคโนโลยี โดยจอประสาทตาเสื่อมมี 2 แบบ
1.จอประสาทตาเสื่อมแบบแห้ง
เกิดจากการเสื่อมตามธรรมชาติของจอประสาทตาอย่างช้าๆตามอายุที่เพิ่มขึ้นทำให้สังเกตอาการที่เกิดขึ้นได้ยาก ตัวอย่างของอาการที่เกิดขึ้น
- การมองเห็นพร่ามัวไม่ชัดเจน: อาการนี้มักจะค่อยๆเกิดขึ้น ผู้ป่วยจะรู้สึกเหมือนมีหมอกมาบดบังการของเห็นบริเวณกลางดวงตา
- การมองเห็นผิดปกติในที่ที่มีแสงน้อย: ทำให้การอ่านหนังสือหรือทำกิจกรรมเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากการมองเห็นมีความผิดปกติ
- สีซีดจาง: สีของภาพจางลง ความสดใสและความคมชัดของภาพลดลง
- การมองภาพมีความผิดปกติ: ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็นเส้นตรงเป็นเส้นโค้ง หรือการมองเห็นเส้นตรงเป็นริ้วคลื่น
2.จอประสาทตาเสื่อมแบบเปียก
เป็นโรคทางตาที่ร้ายแรงซึ่งอาจทำให้สูญเสียการมองเห็นได้อย่างรวดเร็วหากรู้ตัวช้าไป และไม่มีวิธีการดูแลที่ถูกต้องอาจทำให้ตาบอดได้ ตัวอย่างอาการที่เกิดขึ้น
- การมองเห็นพร่ามัวกะทันหัน: ระยะเวลาในการแสดงอาการอาจจะนานไม่กี่ชั่วโมง หรือนานเป็นวัน ผู้ป่วยจะรู้สึกว่ามองไม่ชัดเจนเหมือนมีหมอกบังตาอยู่
- ภาพที่เห็นมีจุดสีดำบริเวณกลางภาพ: การมองของผู้ป่วยจะแปลกไปเนื่องจากภาพที่มองเห็นจะมีจุดสีดำบริเวณกลางภาพ
- มีแสงแวบเข้ามาในดวงตา: ผู้ป่วยอาจเห็นแสงแวบเข้ามาในดวงตาข้างที่มีความผิดปกติ ทำให้ไม่สามารถมองภาพได้อย่างชัดเจน
- สีซีดจาง: สีของภาพจางลง ความสดใสและความคมชัดของภาพลดลง
- การมองภาพมีความผิดปกติ: ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็นเส้นตรงเป็นเส้นโค้ง หรือการมองเห็นเส้นตรงเป็นริ้วคลื่น
สาเหตุที่ทำให้จอประสาทตาเสื่อม
1.จอประสาทตาเสื่อมตามธรรมชาติ เมื่อเราอายุเพิ่มมากขึ้น ประสิทธิภาพในการทำงานของสายตาจะลดลง เนื่องจากการใช้งานไม่ว่าจะเป็นการนั่งดูโทรศัพท์ การนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ และการนั่งดูโทรทัศน์เป็นเวลานาน
2.ความผิดปกติของหลอดเลือด เกิดจากการที่หลอดเลือดขยายตัวทำให้มีเลือดไปสะสมอยู่ใต้จอประสาทตา ส่งผลให้เกิดความเสียหายในการมองเห็น
3.พันธุกรรม โรคจอประสาทตาเสื่อมบางชนิดสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ สามารถพบได้น้อย แต่มีโอกาสสูงที่จะเกิดขึ้นกับสมาชิกในครอบครัวของผู้ป่วย
4.โรคประจำตัว มักจะมาในรูปแบบของโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดัน โรคเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบต่อจอประสาทตาได้
5.พฤติกรรม และการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคล เช่น นักเรียนที่นั่งเรียนออนไลน์ ทำให้ต้องนั่งดูโทรศัพท์ หรือนั่งดูคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน, คนทำงานออฟฟิศที่ต้องนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวัน, คนที่ทำอาชีพนั่ง Live ขายของ ต้องนั่งหน้าจอโทรศัพท์รวมไปถึงการมองแสงไฟต่างๆเป็นเวลานาน, สุดท้ายไม่ว่าเราจะทำกิจกรรมอะไรทุกคนก็จะต้องมีการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เข้ามาเกี่ยวข้องอยู่เสมอ ซึ่งทำให้จอประสาทตาเสื่อมสภาพลงทุกวัน
วิธีการป้องกันจอประสาทตาเสื่อม
1.ตรวจตาเป็นประจำ การไปพบแพทย์เป็นประจำจะช่วยให้เรารู้ว่าตาของเรามีความผิดปกติหรือไม่ ทำให้สามารถคิดวิธีรับมือ รวมไปถึงการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดโรคเกี่ยวกับดวงตาได้
2.ดูแลตัวเองจากโรคประจำตัว โรคประจำตัวบางชนิดสามารถทำให้ตาของเราเกิดความเสียหายได้ ดังนั้นต้องดูแลและรักษาโรคประจำตัวอย่างสม่ำเสมอ
3.ทานอาหารที่มีประโยชน์ ทานอาหารที่มีวิตามินที่เกี่ยวข้องกับดวงตา เพื่อสุขภาพตาที่แข็งแรง
4.สวมแว่นกันแดดรวมถึงแว่นที่ช่วยป้องกันแสงสีฟ้า ถือเป็นตัวช่วยป้องกันเรื่องแสง UV อีกทั้งยังช่วยป้องกันแสงสีฟ้าจากการนั่งเล่นโทรศัพท์ และการนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานได้อีกด้วย
5.มองหาอาหารเสริมที่ช่วยในเรื่องของดวงตา การทานอาหารเสริมที่ดีสามารถเป็นตัวช่วยสำคัญที่ช่วยดูแลสุขภาพดวงตา อีกทั้งยังช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของดวงตาได้อย่างมีประสิทธิภาพอาหารเสริมสำหรับดวงตาที่เราแนะนำ คือ Dextra Wiirook Plus ค่ะ
Dextra Wiirook Plus
ไม่ว่าคุณจะนั่งเล่นโทรศัพท์ หรือนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์นานแค่ไหน มั่นใจได้เลยว่าดวงตาของคุณจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี สนใจติดต่อสั่งซื้อทาง
LINE : https://lin.ee/rwm4xJa
Tel : 02-113-1234
Website: https://tel2telltvshopping.com/shop/