Previous slide
Next slide

ไฟเบอร์เสริมคุณภาพ ชีวิตเบาสบาย คลิกเลย!

ต้องกินผัก ผลไม้ ธัญพืชเยอะ
แค่ไหนถึงจะได้ไฟเบอร์เพียงพอ ?

เคยรู้ไหมว่าเส้นใยไฟเบอร์ไม่เพียงพอในอาหารทำให้การขับถ่ายไม่สะดวก?

ท้องผูก (Constipation) สามารถเกิดจากหลายปัจจัยทั้งจากพฤติกรรม การทำงานของร่างกาย และสิ่งแวดล้อมที่เราต้องเผชิญในชีวิตประจำวัน รวมถึงความเครียดที่ส่งผลต่อระบบขับถ่ายของเราโดยตรง ซึ่งสามารถแบ่งปัจจัยออกเป็น 3 กลุ่มหลักๆ ได้แก่

ท้องผูก (Constipation) สามารถเกิดจากหลายปัจจัยทั้งจากพฤติกรรม การทำงานของร่างกาย และสิ่งแวดล้อมที่เราต้องเผชิญในชีวิตประจำวัน รวมถึงความเครียดที่ส่งผลต่อระบบขับถ่ายของเราโดยตรง ซึ่งสามารถแบ่งปัจจัยออกเป็น 3 กลุ่มหลักๆ ได้แก่:

1. พฤติกรรมการใช้ชีวิต

  • การบริโภคอาหาร
    การรับประทานอาหารที่ขาดไฟเบอร์ (จากผัก, ผลไม้, ธัญพืช) เป็นสาเหตุหลักของท้องผูก เพราะไฟเบอร์ช่วยเพิ่มมวลอุจจาระและกระตุ้นการขับถ่ายให้เกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น
  • การดื่มน้ำไม่เพียงพอ
    น้ำมีบทบาทสำคัญในการทำให้มวลอุจจาระนิ่มและช่วยให้การขับถ่ายสะดวกขึ้น การดื่มน้ำไม่เพียงพอจะทำให้อุจจาระแห้งและเคลื่อนตัวช้าลง
  • การขาดการออกกำลังกาย
    การขาดการเคลื่อนไหวทางกาย เช่น การนั่งนิ่งๆ นานเกินไป อาจทำให้การทำงานของลำไส้ช้าลง ส่งผลให้เกิดท้องผูก
  • พฤติกรรมการขับถ่ายไม่เป็นเวลา
    การเลื่อนหรือข้ามการขับถ่ายบ่อย ๆ อาจทำให้การทำงานของลำไส้ไม่สมดุล และทำให้เกิดท้องผูกได้

2. ปัจจัยภายในร่างกาย

  • ระบบการทำงานของลำไส้
    ระบบขับถ่ายที่ทำงานไม่ปกติ เช่น การขาดการหดตัวของกล้ามเนื้อลำไส้ (Peristalsis) หรือมีปัญหากับการดูดซึมในลำไส้สามารถทำให้เกิดท้องผูกได้
  • ภาวะป่วยหรือโรคบางชนิด
    โรคบางชนิด เช่น โรคลำไส้อักเสบ (IBS), โรคเบาหวาน, หรือโรคฮอร์โมน เช่น ภาวะไทรอยด์ต่ำ อาจทำให้เกิดท้องผูกได้
  • การใช้ยาบางชนิด
    ยาบางประเภท เช่น ยาระงับปวด (Painkillers), ยาลดกรดในกระเพาะ, ยากล่อมประสาท หรือยาระบายบางชนิด สามารถส่งผลให้การขับถ่ายผิดปกติและเกิดท้องผูก

3. สิ่งแวดล้อมภายนอก และความเครียด

  • สิ่งแวดล้อมที่มีความเครียดสูง
    ความเครียดส่งผลต่อระบบประสาทอัตโนมัติ ซึ่งควบคุมการทำงานของระบบย่อยอาหาร ความเครียดสามารถทำให้การเคลื่อนไหวของลำไส้ช้าลงหรือเกิดปัญหาท้องผูกได้
  • การเปลี่ยนแปลงในชีวิตประจำวัน
    การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม เช่น การเดินทางไปต่างประเทศ หรือการเปลี่ยนแปลงจากงานที่เครียดไปสู่สถานการณ์ที่ผ่อนคลาย อาจทำให้การขับถ่ายแปรปรวนได้
  • การขาดการสนับสนุนจากสิ่งแวดล้อม
    การไม่มีการสนับสนุนจากสิ่งแวดล้อม เช่น การไม่มีห้องน้ำสะดวกเมื่อรู้สึกอยากขับถ่าย หรือการรู้สึกไม่สะดวกในการขับถ่ายในบางสถานการณ์ เช่น สถานที่สาธารณะ

 

ปัญหาท้องผูก เกิดจากอะไร ?

1.พฤติกรรมกากินอาหาร

  • การขาดเส้นใย (ไฟเบอร์) และการดื่มน้ำไม่เพียงพอเป็นสาเหตุหลักของท้องผูก
  • อาหารแปรรูปหรืออาหารที่ย่อยยากสามารถทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานไม่ดี

2.การขาดการออกกำลังกายและพฤติกรรมการใช้ชีวิต

  • การนั่งนานๆ หรือขาดการเคลื่อนไหวสามารถทำให้ลำไส้ทำงานช้าลง

การข้ามมื้ออาหารหรือละเลยการขับถ่ายเมื่อรู้สึกต้องการอาจทำให้เกิดท้องผูกได้

3.การใช้ยาบางชนิดและปัญหาสุขภาพ

  • ยาบางประเภท เช่น ยาระงับปวด หรือยาลดกรดในกระเพาะอาหาร อาจทำให้เกิดท้องผูก

โรคบางชนิด เช่น โรคลำไส้อักเสบ (IBS) หรือภาวะไทรอยด์ต่ำ อาจเป็นสาเหตุของท้องผูก

4.ความเครียดและปัจจัยทางจิตใจ

  • ความเครียดและความวิตกกังวลส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบย่อยอาหารและสามารถทำให้ท้องผูก

5.การเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อม

  • การเดินทางหรือการเปลี่ยนแปลงในชีวิตอาจส่งผลกระทบต่อการขับถ่าย เนื่องจากการไม่สะดวกในการใช้ห้องน้ำหรือการปรับตัวต่อสถานการณ์ใหม่ๆ

ดูแลลำไส้ในทุกวัน เลือกไฟเบอร์ที่ใช่สำหรับคุณ ?

ไฟเบอร์สำคัญต่อระบบย่อยอาหารอย่างไร?

ไฟเบอร์มีบทบาทสำคัญในระบบย่อยอาหาร โดยช่วยส่งเสริมการทำงานของลำไส้และปรับสมดุลการทำงานของระบบทางเดินอาหาร ดังนี้

1. ช่วยการขับถ่าย

  • ไฟเบอร์ชนิดไม่ละลายน้ำ ช่วยเพิ่มปริมาณและความหนาแน่นของกากอาหาร ทำให้อุจจาระนุ่มและง่ายต่อการขับถ่าย
  • ลดปัญหาท้องผูกและป้องกันโรคริดสีดวง

2. ปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้

  • ไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำ ทำหน้าที่เป็นพรีไบโอติก (Prebiotic) ซึ่งเป็นอาหารของจุลินทรีย์ดีในลำไส้
  • สนับสนุนการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ดี เช่น Lactobacillus และ Bifidobacteria

3. ชะลอการย่อยอาหาร

  • ไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำสร้างเจลในกระเพาะอาหาร ช่วยให้กระบวนการย่อยอาหารและการดูดซึมน้ำตาลช้าลง
  • ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่

4. กำจัดสารพิษและของเสีย

  • ไฟเบอร์ช่วยดูดซับสารพิษและน้ำดีที่สะสมในลำไส้
  • ลดความเสี่ยงการสะสมของสารพิษที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งลำไส้

5. ลดการอักเสบในลำไส้

  • การบริโภคไฟเบอร์ช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาเกี่ยวกับลำไส้ เช่น โรคลำไส้อักเสบ และมะเร็งลำไส้ใหญ่

6. ส่งเสริมการดูดซึมสารอาหาร

  • ไฟเบอร์ช่วยทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้การดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

รู้หรือไม่ ไฟเบอร์สำคัญต่อสุขภาพคุณมาก กว่าที่คิด ?

ที่มาพร้อมสารสกัดเข้มข้น

ข้อดีของการกินไฟเบอร์

1.สะดวกและง่ายต่อการบริโภค

  • ช่วยเพิ่มปริมาณไฟเบอร์ในกรณีที่อาหารปกติไม่เพียงพอ
  • รูปแบบผงหรือแคปซูลสามารถพกพาและรับประทานได้สะดวก

2.ช่วยแก้ปัญหาท้องผูก

  • ช่วยเพิ่มกากอาหารในลำไส้ ส่งเสริมการขับถ่าย

3.ส่งเสริมสุขภาพลำไส้

  • บางผลิตภัณฑ์มีไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำที่เป็นพรีไบโอติก ช่วยเสริมการทำงานของจุลินทรีย์ดี

4.ปราศจากแคลอรีสูง

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก

5.ทางเลือกสำหรับผู้แพ้อาหารบางชนิด

  • ช่วยเติมไฟเบอร์ในกรณีที่ไม่สามารถบริโภคผักหรือผลไม้บางชนิดได้

วิธีการเลือกกินไฟเบอร์ของเด็กและผู้สูงวัย
ควรพิจารณาดังนี้

สำหรับเด็ก

  • เลือกไฟเบอร์จากผลไม้รสหวาน: เช่น แอปเปิ้ล กล้วย ส้ม ที่เด็กชอบกินง่าย
  • เพิ่มไฟเบอร์ในอาหารที่คุ้นเคย: ผสมข้าวโอ๊ตลงในซีเรียล หรือเพิ่มผักในซุป
  • ให้ในปริมาณเหมาะสม: ไฟเบอร์มากเกินไปอาจทำให้เด็กท้องอืด ควรเริ่มจากปริมาณน้อยและค่อย ๆ เพิ่ม
  • เลือกอาหารที่มีสีสันดึงดูด: เช่น แครอท หรือข้าวโพด เพื่อกระตุ้นให้เด็กอยากลอง
  • เน้นใยอาหารธรรมชาติ: หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปที่อาจเติมน้ำตาลหรือสารปรุงแต่ง

สำหรับผู้สูงวัย

  • เลือกอาหารที่ย่อยง่าย: เช่น ข้าวโอ๊ต บรอกโคลี ต้มสุก หรือมันเทศ
  • ใยอาหารละลายน้ำช่วยดูดซึมช้า: เช่น แอปเปิ้ล ควินัว ถั่ว เพื่อช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด
  • เน้นการเพิ่มน้ำดื่มควบคู่: เพื่อป้องกันอาการท้องอืดหรือท้องผูกจากไฟเบอร์
  • หลีกเลี่ยงไฟเบอร์ที่แข็งหรือหยาบเกินไป: เช่น ถั่วเปลือกแข็ง หรือผักดิบ
  • ปรับสมดุลด้วยโปรตีนและไขมันดี: ช่วยเสริมพลังงานและสารอาหารที่จำเป็น

อย่าปล่อยให้ท้องผูกทำลายสุขภาพคุณ คลิกเพื่อ
ดูวิธีแก้ไข!

วิธีแก้ไขปัญหาการนั่งขับถ่ายนานอย่างละเอียด

การนั่งขับถ่ายนานอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพ เช่น ริดสีดวงทวาร หรือความผิดปกติของลำไส้ การแก้ไขต้องเริ่มจากการปรับพฤติกรรมและดูแลสุขภาพโดยรวม ดังนี้


1. ปรับพฤติกรรมการขับถ่าย

  • กำหนดเวลาให้แน่นอน: ฝึกการขับถ่ายในเวลาเดียวกันทุกวัน เช่น หลังตื่นนอนตอนเช้า
  • หลีกเลี่ยงการนั่งนานเกินไป: จำกัดเวลานั่งขับถ่ายไม่เกิน 5-10 นาที หากไม่ได้ผล ให้ลองใหม่ในเวลาอื่น
  • หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ระหว่างขับถ่าย: งดใช้โทรศัพท์มือถือหรืออ่านหนังสือ เพราะอาจทำให้ใช้เวลานานขึ้น

2. ปรับเปลี่ยนท่าทางขับถ่าย

  • ใช้ท่านั่งที่เหมาะสม: ยกขาให้สูงขึ้นเล็กน้อยโดยใช้เก้าอี้รองเท้า หรือ Squatting Position เพื่อช่วยให้ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น
  • ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ: หายใจเข้าลึกและค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจเพื่อช่วยกระตุ้นการขับถ่าย

3. บริโภคอาหารที่มีไฟเบอร์สูง

  • เพิ่มการบริโภคไฟเบอร์: เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืชเต็มเมล็ด ถั่ว และเมล็ดพืช
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ: น้ำช่วยให้กากอาหารนุ่มและเคลื่อนตัวได้ง่ายในลำไส้
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้ท้องผูก: เช่น ขนมปังขาว อาหารแปรรูป และอาหารที่มีไขมันสูง

4. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

  • การเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น เดิน วิ่ง หรือโยคะ ช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้
  • ทำกิจกรรมอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน

5. สร้างนิสัยการขับถ่ายที่ดี

  • อย่ากลั้นอุจจาระเมื่อรู้สึกปวด เพราะอาจทำให้ลำไส้ทำงานผิดปกติ
  • ฝึกฝนการผ่อนคลายเมื่อขับถ่าย ลดความเครียดที่อาจส่งผลต่อการทำงานของระบบย่อยอาหาร

6. ใช้ตัวช่วยเมื่อจำเป็น

  • หากยังมีปัญหาท้องผูกหรือขับถ่ายยาก อาจใช้ยาหรืออาหารเสริมไฟเบอร์ที่แนะนำโดยแพทย์
  • ใช้ยาระบายเบา ๆ เฉพาะกรณีที่จำเป็นและไม่ควรใช้ต่อเนื่อง

7. ปรึกษาแพทย์หากมีปัญหาเรื้อรัง

  • หากคุณมีอาการท้องผูกเรื้อรังหรือปัญหาขับถ่ายที่ไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม

รู้ไหม? การนั่งถ่ายนานอาจนำไปสู่โรคเรื้อรัง

การทำงานของไฟเบอร์ในลำไส้ใหญ่

  1. เพิ่มปริมาณกากอาหาร
  • ไฟเบอร์ไม่ละลายน้ำช่วยเพิ่มปริมาณและความหนาแน่นของกากอาหาร
  • กระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ ลดอาการท้องผูก
  1. เป็นอาหารของจุลินทรีย์ดี:
  • ไฟเบอร์ละลายน้ำทำหน้าที่เป็นพรีไบโอติก (Prebiotic)
  • ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของแบคทีเรียดีในลำไส้ เช่น Bifidobacteria และ Lactobacilli
  • ส่งเสริมสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้
  1. ผลิตกรดไขมันสายสั้น (SCFAs):
  • จุลินทรีย์ในลำไส้ใหญ่ย่อยไฟเบอร์ละลายน้ำและผลิตกรดไขมันสายสั้น เช่น บิวไทเรต (Butyrate)
  • SCFAs ช่วยบำรุงเซลล์ผนังลำไส้ใหญ่ ลดการอักเสบ และเสริมระบบภูมิคุ้มกัน
  1. กำจัดสารพิษและของเสีย:
  • ไฟเบอร์ช่วยดูดซับสารพิษและน้ำดีที่สะสมอยู่ในลำไส้ใหญ่
  • ลดความเสี่ยงการสะสมของสารพิษที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งลำไส้
  1. ลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง:
  • ช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคริดสีดวงทวาร และการอักเสบในลำไส้

 

 

ลองเลย! ความอร่อยที่ทำให้สุขภาพคุณดีขึ้น

Previous slide
Next slide

ประโยชน์ของการกินไฟเบอร์

  1. ช่วยการขับถ่าย: ป้องกันและลดอาการท้องผูก เพิ่มปริมาณกากอาหารในลำไส้
  2. ปรับสมดุลลำไส้: สนับสนุนการเติบโตของจุลินทรีย์ที่ดี ช่วยลดการอักเสบในลำไส้
  3. ควบคุมน้ำหนัก: ทำให้อิ่มนาน ลดความอยากอาหาร และช่วยควบคุมแคลอรี
  4. ควบคุมน้ำตาลในเลือด: ชะลอการดูดซึมน้ำตาล ลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน
  5. ลดคอเลสเตอรอล: ไฟเบอร์ละลายน้ำช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ส่งเสริมสุขภาพหัวใจ
  6. ลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง: เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง
  7. ส่งเสริมสุขภาพโดยรวม: ช่วยล้างสารพิษและของเสียในระบบย่อยอาหาร

 

เลขจดแจ้ง อย.20-1-04267-5-0024

คำถาม
Q & A

คำถามและคำตอบ (Q&A) เกี่ยวกับไฟเบอร์อาหารเสริมมีความสำคัญเพราะไฟเบอร์ (หรือเส้นใยอาหาร) เป็นสารอาหารที่สำคัญในการช่วยระบบย่อยอาหาร และรักษาสุขภาพลำไส้ การใช้คำถามและคำตอบช่วยให้ผู้บริโภคได้รับข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับวิธีการใช้งาน ผลประโยชน์ ข้อควรระวัง หรือคำแนะนำในการรับประทานอาหารเสริมประเภทนี้

Previous slide
Next slide

รีวิวจากผู้ใช้จริง

อยากขับถ่ายคล่อง สั่งซื้อวันนี้ พร้อมรับโปรพิเศษ!

ช่องทางการติดต่อ/สั่งซื้อ

FaceBook

Infinite Psyllium ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร รสสับปะรด

Tel2Tell

Infinite Psyllium ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร รสสับปะรด

Line

Infinite Psyllium ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร รสสับปะรด

Shopee

Infinite Psyllium ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร รสสับปะรด
Shopping Cart