แสงสีฟ้าภัยร้ายที่อยู่ใกล้ตัวคุณมากกว่าที่คิด ปัจจุบันเราต้องพบกับแสงสีฟ้าในทุกๆวัน ไม่ว่าจะเป็นแสงสีฟ้าจากธรรมชาติ หรือแสงสีฟ้าจากเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ หากเราได้รับในปริมาณมากจะส่งผลกระทบต่อดวงตา ทำให้ดวงตาได้รับความเสียหาย และอาจนำไปสู่การเกิดโรคร้ายแรงที่เกี่ยวข้องกับดวงตาได้ วันนี้เราจะมาพูดถึงความอันตรายของแสงสีฟ้า วิธีการรับมือ และวิธีการปกป้องดวงตาของเรา พร้อมแล้วก็ไปกันเลยครับ
แสงสีฟ้ามาจากไหนบ้าง?
1.แสงสีฟ้าที่มาจากธรรมชาติ: เป็นแสงสีฟ้าที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ โดยแหล่งมีกำเนิดมาจากดวงอาทิตย์ และเนื่องจากแสงแดดมีอยู่ทุกที่ ทำให้เราต้องเผชิญหน้ากับแสงสีฟ้าในทุกๆวัน
2.แสงสีฟ้าที่มาจากเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์: เป็นแสงสีฟ้าที่เกิดจากสิ่งประดิษฐ์ของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์, หน้าจอคอมพิวเตอร์, โทรทัศน์, หรือแสงไฟต่างๆ
อันตรายที่เกิดจากแสงสีฟ้า
1.อันตรายต่อสุขภาพ
– ส่งผลกระทบต่อการนอนหลับ เนื่องจากแสงสีฟ้าจะเข้าไปรบกวนการหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนิน ซึ่งเป็นตัวช่วยสำคัญในการนอนหลับ ทำให้การนอนหลับยาก นอนหลับไม่สนิท และใช้เวลาในการนอนหลับนานกว่าปกติ
– ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน สืบเนื่องมาจากการนอนหลับไม่สนิท ร่างกายจึงได้รับการพักผ่อนไม่เพียงพอ ขาดความกระปรี้กระเปร่า ส่งผลกระทบทำให้คุณไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
– ความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ แสงสีฟ้าสามารถส่งผลกระทบต่อโรคหัวใจได้ เนื่องจากส่งผลกระทบต่อการนอนหลับ ทำให้นอนหลับไม่เพียงพอ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความดันโลหิตซึ่งเป็นจุดสำคัญที่ทำให้เกิดโรคหัวใจได้
– ความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วน สาเหตุมาจากแสงสีฟ้า โดยแสงสีฟ้าจะส่งผลกระทบต่อการนอนหลับ ทำให้นอนหลับไม่เพียงพอ ซึ่งทำให้ฮอร์โมนเกรลินสูงขึ้น และฮอร์โมนเลปตินลดต่ำลง ทำให้หิวง่าย และทานอาหารบ่อยขึ้น
2.อันตรายต่อดวงตา
– จอประสาทตา แสงสีฟ้าสามารถเข้าไปทำลายเซลล์รับแสงของจอประสาทตา ทำให้ภาพที่มองเห็นผิดปกติ อีกทั้งยังทำให้เกิดโรคจอประสาทตาเสื่อมในระยะยาวได้ หากได้รับในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการตาบอดได้
– กล้ามเนื้อตา ไม่ว่าจะเป็นการเล่นโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ หรือเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆล้วนเป็นสิ่งที่ทำร้ายดวงตาของคุณ ทำให้กล้ามเนื้อตาทำงานหนักขึ้น ส่งผลทำให้ดวงตาของคุณเกิดอาการตาล้า แสบตา ตาแห้ง ตาพร่ามัว มองไม่ชัด ซึ่งเป็นอาการเริ่มต้นที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพดวงตาในระยะยาว
– เลนส์แก้วตา เนื่องจากเลนส์แก้วตาดูดซับแสงสีฟ้ามากเกินไป ทำให้ความคมชัดของภาพลดลง และอาจทำให้เกิดโรคต้อกระจกในระยะยาวได้
– ม่านตา ส่งผลกระทบทำให้ม่านตาหดเล็กลง ปริมาณแสงที่สามารถเข้ามาในดวงตาจึงลดลงตามไปด้วย
– ประสาทตา ส่งผลกระทบทำให้ความเร็วในการส่งสัญญาณภาพไปที่สมองลดลง ทำให้เรามองเห็นภาพได้ช้ากว่าปกติ
วิธีการป้องกันดวงตาจากแสงสีฟ้า
1.ลดเวลาการใช้งานหน้าจอ
– พักดวงตาจากการมองหน้าจอบ่อยๆ โดยเฉพาะเด็กที่อายุน้อยควรพักอย่างน้อย 20 นาที ในทุกๆ 2 ชั่วโมง
– จัดเวลาในการใช้งานโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ การจัดตารางเวลาการใช้งานที่ดีจะช่วยให้ดวงตาของเราได้รับการพักผ่อนอย่างมีประสิทธิภาพ
– หากิจกรรมที่ไม่ทำให้ดวงตาทำงานหนัก เช่น การออกกำลังกาย การเดินเล่น หรือกิจกรรมอื่นๆ เพื่อพักดวงตาของเราจากการทำงานหนัก
2. การปรับตั้งค่าหน้าจอ
– การปรับลดความสว่างหน้าจอ เราควรปรับแสงหน้าจอโทรศัพท์ให้เหมาะกับการใช้งาน เพื่อช่วยป้องกันดวงตา
– การปรับสีหน้าจอเป็นโทนอุ่น ช่วยลดปริมาณแสงที่ได้รับ อีกทั้งยังทำให้ดวงตาทำงานน้อยลง
– การปรับเป็นหน้าจอ Night Mode ในเวลากลางคืน ช่วยลดปริมาณแสงที่ได้รับ ทำให้ดวงตาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในเวลากลางคืน
3.การสวมแว่นตา
– ใส่แว่นตาที่สามารถกรองแสงได้ ถือเป็นตัวช่วยที่ป้องกันดวงตาของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพจากหน้าจอโทรศัพท์ หน้าจอคอมพิวเตอร์ และเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ
– ใส่แว่นตากันแดด แสงแดดที่เราพบเจอในทุกๆวัน ก็สามารถทำร้ายดวงตาของเราได้ ดังนั้นเราจึงควรสวมแว่นกันแดดทุกครั้งเมื่อออกไปข้างนอกบ้าน
4.ทานอาหารเสริมที่ช่วยดูแลดวงตา
– วิตามินเอ ช่วยบำรุงดวงตาของคุณ
– วิตามินซี ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ
– วิตามินอี ช่วยป้องกันโรคทางดวงตาต่างๆ
หากคุณกำลังมองหาอาหารเสริมที่ช่วยให้ดวงตาของคุณแข็งแรง พร้อมเผชิญหน้าทุกสถานการณ์ เรามีอาหารเสริมมาแนะนำ คือ Dextra Wiirook Plus ตัวช่วยที่จะทำให้ดวงตาของคุณได้รับการปกป้องจากแสงสีฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ สนใจสั่งซื้อได้ที่
LINE: https://lin.ee/rwm4xJa
Website: https://tel2telltvshopping.com/shop/
Tel: 02-113-1234